USB-C
Tags: usb-c
USB Type C
USB Type-C เป็นชื่อเรียกหัวเชื่อมต่อ USB รูปแบบหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกและง่ายกว่าหัวเชื่อมต่อ USB แบบ Type-A หรือ Type-B โดยตัวอักษร C หมายถึงลักษณะทางกายภาพของหัวเชื่อมต่อชนิดนี้ที่มีรูปทรงแบนยาวที่มุมสองข้างซ้าย-ขวาโค้งเข้าหากัน จุดเด่นสำคัญคือสามารถเสียบใช้งานด้านใดก็ได้ ไม่มีปัญหาเรื่องเสียบผิดด้านที่มักพบเจอบ่อย ๆ ใน USB Type-A และ Type-B นอกจากนี้ยังมีอัตราการส่งข้อมูลที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ USB รุ่นก่อนหน้า
ข้อดีของ USB Type C
- มีขนาดเล็กและแบน ใช้พื้นที่น้อยกว่า USB Type-A และ Type-B ทำให้สามารถออกแบบให้อุปกรณ์ให้มีความบางได้มากกว่า
- สามารถสลับเสียบด้านใดก็ได้ ไม่มีปัญหาเสียบผิดด้าน ใช้งานสะดวกและยืดหยุ่นกว่า
- รองรับโปรโตคอลได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ถ่ายโอนข้อมูล ส่งสัญญาณภาพและเสียง จ่ายกระแสไฟฟ้า เป็นต้น
- มีอัตราการส่งข้อมูลที่สูงกว่า USB Type-A และ Type-B
ความสามารถในการใช้งาน USB Type-C หรือ USB-C ก็ขึ้นอยู่กับประเภทที่เพื่อนๆ เลือกใช้ด้วยเช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท
1.USB Type-C มาตรฐาน พอร์ตที่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วสูงสุด 20 Gbps และยังรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าในจำนวนวัตต์มาตรฐานที่ทางผู้ผลิตเลือกใช้ เหมาะสำหรับสมาร์ตโฟนและแท็ปเล็ต
2.USB Type-C PD (Power Delivery) เป็นพอร์ตที่มีคุณสมบัติสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เหมือนพอร์ต USB-C มาตรฐานทั่วไป แต่เพิ่มเติมด้วยคุณสมบัติที่จ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า และรองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 240W โดยจะมีสัญลักษณ์PD บ่งบอกอยู่
3.USB TYPE-C DP (Display Port) เป็นพอร์ตที่เพิ่มคุณสมบัติการรองรับสัญญาณภาพเพิ่มเติมจากพอร์ตมาตรฐาน ส่วนมากอยู่บนแล็ปท็อปโดยสังเกตสัญลักษณ์อักษรตัว DP บริเวณพอร์ตที่บ่งบอกว่าอุปกรณ์นี้รองรับการต่อจอภาพได้ ทั้งนี้การเลือกใช้สาย USB-C ก็เป็นส่วนสำคัญ หากสายไม่รองรับการส่งสัญญาณภาพก็ไม่สามารถทำได้ ควรเลือกใช้สายเวอร์ชั่น 3.1 ที่เป็น Full Function ครอบคลุมการส่งสัญญาณจอภาพหรือบางรุ่นชาร์จไฟแบตเตอรี่ได้ในตัว
4.Thunderbolt พอร์ตที่เสมือนเป็นฝาแฝดของ USB Type-C หรือ USB-C รูปทรงและหน้าตาคล้ายกัน แถมยังรวบฟังก์ชั่นและความสามารถแบบครอบจักรวาลมาด้วย เพราะไม่ว่าจะพอร์ต Thunderbolt 3 หรือ Thunderbolt 4 ก็มีคุณสมบัติทั้งรับถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 40 Gbps, ชาร์จไฟด้วยกำลังไฟสูงสุด 100W และสามารถส่งสัญญาณภาพต่อจอมอนิเตอร์ระดับ 4K ได้ถึง 2 จอ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในแล็ปท็อปที่มีสัญลักษณ์ Intel Evo หรือสัญลักษณ์สายฟ้าบน MacBook, iMac และ Mac Studio
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO
Line : @FACTORIPRO