มาตรฐาน IPX หรือ IP คืออะไร ทำไมสำคัญกับเครื่องใช้ไฟฟ้า?

มาตรฐาน IPX หรือ IP คืออะไร ทำไมสำคัญกับเครื่องใช้ไฟฟ้า?

      ความหมายของรหัส IPX หรือ IP โดยทั่วไปแล้ว เราจะเห็นการบอกเลข IPX ประกอบไปด้วย IP และตามด้วยตัวเลข 2 ตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น IP69
ความหมายของรหัส IP แต่ละหลัก IP หมายถึง Ingress Protection X หมายถึง ตัวเลขซึ่งจะประกอบได้ด้วยเลข 2 หลัก ดังนี้
- เลขหลักที่ 1 หมายถึง ความสามารถในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมประเภทของแข็งโดยสามารถใช้เลข 0-6 เป็นตัวบอกระดับความสามารถในการป้องกันได้
- เลขหลักที่ 2 หมายถึง ความสามารถในการป้องกันของเหลว โดยตัวเลขที่นำมาใช้งานมีตั้งแต่เลข 0 จนไปถึง 8

     ในการเลือกใช้ไฟฟ้า เช่น บางคนอาจจะสงสัยว่า เลข IP65 , IP63 วันนี้เราจะมาอธิบายความหมายของ IP ว่าแต่ละเลขมีความหมายอย่างไร

     IPX คือ มาตรฐานที่ใช้สำหรับบอกถึงความสามารถในการป้องกันฝุ่นละอองและน้ำของอุปกรณ์ชนิดนั้น ซึ่งย่อมาจาก Ingress Protection Marking ซึ่งสามารถพบได้บนเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ โดยรหัส IPX ของบทความนี้จะอ้างอิงจาก “Protection state of Equipment” ของ IEC 529:1989 โดยความสามารถในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมนั้น ได้ผลกระทบมาจากสภาพแวดล้อมที่ใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น น้ำมันที่มาจากเครื่องมือตัด, สารเคมี และ ฝุ่นละออง
 
     ความหมายของรหัส IPX หรือ IP
โดยทั่วไปแล้ว เราจะเห็นการบอกเลข IPX ประกอบไปด้วย IP และตามด้วยตัวเลข 2 ตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น IP69 , IP67 และอื่น ๆ อีกมากมาย
ความหมายของรหัส IP แต่ละหลัก
IP หมายถึง Ingress Protection
X หมายถึง ตัวเลขซึ่งจะประกอบได้ด้วยเลข 2 หลัก ดังนี้
- เลขหลักที่ 1 หมายถึง ความสามารถในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมประเภทของแข็งโดยสามารถใช้เลข 0-6 เป็นตัวบอกระดับความสามารถในการป้องกันได้
- เลขหลักที่ 2 หมายถึง ความสามารถในการป้องกันของเหลว โดยตัวเลขที่นำมาใช้งานมีตั้งแต่เลข 0 จนไปถึง 8
 
     ข้อควรระวังเกี่ยวกับมาตรฐาน IPX
หลายครั้งที่ผู้ใช้งานมือใหม่มักจะเข้าใจผิดว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถป้องกันน้ำได้ 100 %แต่หากเมื่อเพื่อน ๆ ทำอุปกรณ์ชิ้นนั้นตกน้ำควรรีบเช็ดทำความสะอาดให้แห้งทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นที่จะเข้าไปสะสมตัวภายในอุปกรณ์ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้เกิดหยดน้ำภายในอุปกรณ์ และเกิดความเสียหายในเวลาถัดมา
 
     ความสามารถในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมประเภทของแข็ง นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ระดับ โดยเริ่มจากตัวเลข 0 ไปจนถึงเลข 6 ดังนี้ (Level)
0 ไม่มีการป้องกัน
1 ป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 mm. ขึ้นไป
2 ป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่กว่า 12.5 mm. ขึ้นไป
3 ป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 mm. ขึ้นไป
4 ป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่กว่า 1.0 mm. ขึ้นไป
5 ป้องกันฝุ่นได้ แต่มีโอกาสที่ฝุ่นขนาดเล็กสามารถที่จะหลุดเข้าไปได้ โดยไม่ส่งผลให้กระทบให้อุปกรณ์เกิดความผิดพลาดในการทำงาน
6 ป้องกันฝุ่นได้ 100 % ไม่มีโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปภายในของอุปกรณ์
 
     ความสามารถในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมประเภทของเหลว นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 9 ระดับ โดยเริ่มจากตัวเลข 0 ไปจนถึงเลข 8 มีดังนี้
(Level)
0 ไม่มีการป้องกัน
1 ป้องกันหยดน้ำที่ตกกระทบในแนวตั้ง
2 ป้องกันหยดน้ำในแนวเฉียงที่ทำมุมไม่เกิน 15 องศา
3 ป้องกันน้ำที่ถูกพ่นแบบสเปรย์
4 ป้องกันน้ำกระเซ็นเข้าที่ตัวอุปกรณ์
5 ป้องกันน้ำที่ถูกฉีดเข้าตัวอุปกรณ์ได้ทุกทิศทาง
6 ป้องกันน้ำที่ถูกฉีดมาด้วยความแรง เข้าตัวอุปกรณ์ได้ทุกทิศทาง
7 ป้องกันน้ำเข้า ในกรณีที่อุปกรณ์มีการจุ่มน้ำ ไม่เกิน 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที
8 ป้องกันน้ำเข้า ในกรณีที่อุปกรณ์มีการจุ่มน้ำลึก มากกว่า 1 เมตรแต่ไม่เกิน 3 เมตร ได้เป็นเวลานาน (ทั้งนี้ความลึกและเวลาที่ทนได้ จะขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ผลิต)
 
 

เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
 Line : @FACTORIPRO

ไลน์ Line FactoriPro

 

Visitors: 7,873