Ai มีประเภทไหนบ้าง?
Tags: ai
Ai มีประเภทไหนบ้าง?
Ai มีประเภทไหนบ้าง?
1. ตามความสามารถในการเรียนรู้และทำงาน
2. ตามวิธีการทำงานและเทคโนโลยีที่ใช้
3. ตามลักษณะการใช้งาน
4. ตามความสามารถในการโต้ตอบกับมนุษย์
5. ตามวิธีการตัดสินใจ
6. ตามระดับความซับซ้อน
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกด้วยความสามารถที่หลากหลายและศักยภาพในการพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด AI ไม่ได้มีเพียงแค่รูปแบบเดียว แต่ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่หลากหลาย บทความนี้ FactoriPro จะพาคุณไปรู้จักประเภทของ AI ที่ถูกจำแนกตามความสามารถ วิธีการทำงาน และลักษณะการใช้งาน
1. ตามความสามารถในการเรียนรู้และทำงาน
- AI แคบ (Narrow AI หรือ Weak AI): AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะเจาะจง เช่น การแนะนำสินค้าในอีคอมเมิร์ซ การรู้จำเสียง หรือการขับรถยนต์อัตโนมัติในบางสถานการณ์ AI ประเภทนี้มีความสามารถจำกัดและไม่สามารถทำงานที่อยู่นอกเหนือจากที่มันได้รับการฝึกฝนมา
- AI ทั่วไป (General AI หรือ Strong AI): AI ที่สามารถทำงานได้หลากหลายแบบเหมือนกับมนุษย์ เช่น การคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจและการเรียนรู้ในหลายๆ สถานการณ์ มันจะมีความสามารถในการปรับตัวและทำงานหลากหลายได้เหมือนกับสมองมนุษย์
- AI ที่เหนือมนุษย์ (Superintelligent AI): AI ที่มีความสามารถเกินกว่ามนุษย์ในทุกด้าน เช่น ความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจและการเรียนรู้ในระดับที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา
2. ตามวิธีการทำงานและเทคโนโลยีที่ใช้
- AI ที่ใช้การเรียนรู้ด้วยเครื่อง (Machine Learning): AI ประเภทนี้สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับและปรับตัวได้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น การใช้การฝึกสอนโมเดลให้ทำงานที่ต้องการโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมโดยตรง เช่น ระบบแนะนำสินค้า การรู้จำภาพ หรือการทำนายผล
- Deep Learning (การเรียนรู้ลึก): เป็นสาขาย่อยของ Machine Learning ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) ในการเรียนรู้จากข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อน เช่น การรู้จำเสียงและภาพ
- AI ที่ใช้การประมวลผลภาษา (Natural Language Processing หรือ NLP): ใช้ในการทำความเข้าใจและสร้างภาษามนุษย์ เช่น การแปลภาษา การสร้างคำตอบจากคำถาม หรือการสนทนา เช่น ChatGPT ที่สามารถเข้าใจภาษาและตอบคำถามได้
- AI ที่ใช้วิธีการค้นหาทางปัญญา (Expert Systems): AI ที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองการตัดสินใจของผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่ง เช่น ระบบแนะนำทางการแพทย์ หรือระบบช่วยตัดสินใจในการบริหารธุรกิจ
3. ตามลักษณะการใช้งาน
- AI ที่ทำงานอัตโนมัติ (Automation AI): ใช้ในงานที่สามารถทำซ้ำๆ และไม่ต้องการการแทรกแซงจากมนุษย์ เช่น หุ่นยนต์ในสายการผลิต หรือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน
- AI ที่ทำงานแบบตอบสนอง (Reactive AI): AI ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เช่น โปรแกรมที่เล่นเกมหมากรุก หรือการตัดสินใจในหุ่นยนต์ที่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ทันที
- AI ที่มีความสามารถในการจำลองสถานการณ์และเรียนรู้จากประสบการณ์ (Learning AI): AI ที่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลหรือประสบการณ์ในอดีตเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในอนาคต เช่น ระบบแนะนำในอีคอมเมิร์ซ หรือการทำนายพฤติกรรมลูกค้า
4. ตามความสามารถในการโต้ตอบกับมนุษย์
- AI ที่มีการโต้ตอบทางภาษา (Conversational AI): เช่น แชทบอทและผู้ช่วยดิจิทัล (เช่น Siri, Alexa, Google Assistant) ที่สามารถเข้าใจและโต้ตอบกับมนุษย์ผ่านการใช้ภาษาธรรมชาติ
- AI ที่ใช้การจดจำภาพและเสียง (Computer Vision & Speech Recognition): AI ที่สามารถรับรู้และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ผ่านภาพและเสียง เช่น ระบบการตรวจจับใบหน้า ระบบแนะนำในวีดีโอ หรือการแปลเสียงเป็นข้อความ
5. ตามวิธีการตัดสินใจ
- AI ที่ใช้การวางแผนและการตัดสินใจ (Planning AI): AI ที่ใช้ในการวางแผนกระบวนการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอน เช่น หุ่นยนต์ที่วางแผนการเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่มีอุปสรรค หรือระบบที่ช่วยในการวางแผนทรัพยากร
- AI ที่ใช้การเรียนรู้จากรางวัล (Reinforcement Learning): เป็นการเรียนรู้ที่ AI จะทำการกระทำในสถานการณ์ต่างๆ และได้รับรางวัลหรือบทลงโทษ เพื่อตัดสินใจว่าอะไรคือการกระทำที่ดีที่สุด เช่น การฝึกหุ่นยนต์หรือโปรแกรมที่เล่นเกม
6. ตามระดับความซับซ้อน
- AI แบบ "Weak AI": AI ที่ทำงานได้ดีในสถานการณ์ที่จำกัด เช่น การรู้จำเสียงหรือภาพ
- AI แบบ "Strong AI": AI ที่สามารถประมวลผลได้หลากหลายแบบและมีความสามารถเทียบเท่ากับมนุษย์
AI มีการแบ่งประเภทตามความสามารถและลักษณะการทำงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ AI แคบที่เน้นการทำงานเฉพาะด้าน ไปจนถึง AI ที่มีศักยภาพเหนือมนุษย์ในอนาคต นอกจากนี้ AI ยังถูกจำแนกตามเทคโนโลยีที่ใช้ วิธีการตัดสินใจ และลักษณะการใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับการแก้ปัญหาในแต่ละด้าน การเข้าใจประเภทของ AI จะช่วยให้เราสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างประโยชน์สูงสุดในยุคดิจิทัล
>>> จบกันไปแล้วสำหรับเนื้อหาที่เรานำเสนอวันนี้ และครั้งต่อไปเราจะนำเสนอเรื่องใด สามารถติดตามพวกเราได้หรือเยี่ยมชมและรับข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่
Facebook : FACTORIPRO
Youtube : FACTORIPRO
Website : www.FactoriPro.com
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO
