คุณลักษณะ อุตสาหกรรมยุค 5.0 มีอะไรบ้าง

5 คุณลักษณะสำคัญของอุตสาหกรรมยุค 5.0 


           (1) การปรับใช้โคบอท (CoBot ; Collaborative Robot)
หุ่นยนต์ร่วมปฎิบัติการมาจากคำว่า Collaborative Robots หรือเรียกย่อๆ คือ Cobot โดยเป็น “หุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปฎิบัติการร่วมกับมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรม” เป็นเครื่องมือทุ่นแรงที่ใช้งานได้หลากหลายลักษณะงาน มีความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้สิ่งแวดล้อมต่างๆได้รวดเร็ว (จากระบบ Machine Learning ที่มีประสิทธิภาพ)
องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐานได้จำแนกโคบอทออกเป็น 4 ประเภทตาม ISO/TS 15066 โดยแบ่งตามลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้
-  1. Safety monitored stop โดยโคบอทประเภทนี้มีการทำงานร่วมกันกับมนุษย์น้อยที่สุด ซึ่งโคบอทประเภทนี้จะหยุดทำงานทันทีเมื่อตรวจจับได้ว่ามนุษย์เข้าไปในพื้นที่หรือใกล้กับโซนทำงานของหุ่นยนต์
-  2. Speed and Separation โคบอทประเภทนี้คล้ายกับ โคบอทประเภทแรก แต่ทว่ามีความแตกต่างกันตรงที่โคบอทประเภทนี้จะใช้ระบบ Vision Systems เพื่อลดความเร็วของหุ่นยนต์เมื่อพนักงานเข้าใกล้ และจะหยุดทันทีเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือการเข้าใกล้มากขึ้น
-  3. Power and Force limiting เป็นโคบอทที่พบนิยมใช้มากที่สุด โดยระบบมีการติดตั้งเซนเซอร์ป้องกันการชนอัจฉริยะ โดยจะหยุดทำงานทันทีเมื่อตรวจพบการสัมผัสกับคนทำงาน และจะใช้งานควบคู่กับแขนหุ่นยนต์ที่มีความเร็วต่ำหรือมีแรงยกน้อย เพื่อลดแรงปะทะ
-  4. Hand guiding เป็นโคบอทที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถสามารถควบคุมให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการเพื่อสอนการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้การตั้งโปรแกรมโคบอทง่ายขึ้น สามารถสอนได้อย่างรวดเร็วจากระบบ Machine Learning ช่วยลดเวลา Downtime ให้เหลือน้อยที่สุด

           (2) การผลิตแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตรงจุด (Mass Customisation)
สำหรับยุคอุตสาหกรรม 5.0 ทางโรงงานสามารถควบคุมการผลิตและปรับแต่งสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดและราคา ซึ่งผลมาจากการทำระบบ IoT ในการเก็บข้อมูลทั้งในด้านของการเงิน ตลาด และระบบ Autonnomous ที่สั่งการแบบอัตโนมัติมาเปลี่ยนกระบวนการผลิตได้แบบ Real Time เลยนะครับ เพื่อให้กำไรของบริษัทหรือโรงงานสูงที่สุดนะครับ (บางที่ในอุตสาหกรรมอาจจะเรียกว่า Advance Control System) และจะส่งเสริมการผลิตสินค้าให้เหมาะสมด้วยการปรับแต่งกระบวณการผลิตสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ค่อนข้างไว

          (3) การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environment Recognization)
อย่างที่เป็นกระแสในทุกๆวันนี้นะครับ โลกเราค่อนข้างได้รับผลกระทบต่อ Global Warming และมีการออกข้อกำหนดมากมายในอุตสาหกรรม ดังนั้นบริษัทหรือโรงงานจะต้อง!! ปรับกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับข้อกำหนดเหล่านั้น ไม่งั้นจะมีผลกระทบที่ค่อนข้างมากเลยครับ ยกตัวอย่าง กระแส Net Zero และ Carbon Credit ที่กำลังมาแรงเลยครับ และเป็นข้อกำหนดที่ Challedge หลายๆโรงงานขนาดใหญ่เลยครับ

แต่ร้อยทั้งร้อย…หลายๆบริษัทไม่อยากที่จะปล่อยมลพิษ (Pollution) ออกสู่สิ่งแวดล้อมหรอกนะครับ แต่ประเด็นคือ สามารถทำได้ไหม?

ดังนั้นการควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำ จะส่งผลให้การปล่อยมลพิษ หรือ สารไม่พึงประสงค์ออกไป จึงเป็นเรื่องจำเป็นมากๆเลยครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะมาจากเทคโนโลยียุค 5.0 นั้นเองครับ รวมถึงเรื่องการนำ พลังงานสะอาด (Renewable Energy) มาใช้งาน ก็จะเป็นอีกแนวทางที่สามารถทำให้โรงงานอุตสาหกรรมก้าวไปสู่การเป็นบริษัทที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนะครับ

          (4) ความเร็วและคุณภาพ (Lead Time & Quality)
แน่นอนว่า การเข้ามาของหุ่นยนต์ เทคโนโลยี AI การเชื่อมต่อระบบแบบ IoT และระบบควบคุมอัตโนมัติแบบ Autononomous สามารถเข้ามาเพิ่มความเร็ว และคุณภาพได้อย่างแม่นยำมากๆในยุคนี้ จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมได้อย่างมากครับ ซึ่งหากไปเทียบกับโรงงานที่ยังใช้คนอยู่ใน Scale เท่ากัน โรงงานที่ใช้คนอยู่จะเสียเปรียบในด้านของความเร็ว และคุณภาพ อย่างมากเลยครับ

          (5) การเพิ่มความสามารถของบุคลากร(Competecny Management)
จากการเข้ามาของเทคโนโลยีต่างๆ ที่รวดเร็ว และกระทันหัน ส่งผลกระทบต่อบุคลากรทั้งสองมุม คือ หุ่นยนต์มาแทนที่คนใช้แรงงาน และคนเหล่านี้จะไม่มีงานทำ และสอง คือขาดคนทำงานร่วมกับหุ่นยนต์อย่างเหมาะสม ดังนั้นสิ่งที่บริษัทส่วนใหญ่ทำ คือ ไม่ได้ไล่คนออกนะครับ แต่จะเป็นการพัฒนาความสามารถของบุคลากรให้สูงขึ้น จนสามารถที่จะทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ได้ และข้อดีคือพอมีความสามารถมากขึ้นผลตอบแทนก็จะมากขึ้นตาม

" ไม่ใช่แค่ในแง่ของคนทำงานนะครับ ในระดับผู้บริหารเองก็จะต้องมีคนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการตัดสินใจและกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งยุคนี้อาจจะเป็นตำแหน่ง CTO (Chief Technology Officer) ที่ดูด้านเทคโนโลยีต่างๆ แต่ทว่าถ้ายุคอุตสาหกรรมมาเต็มๆ อาจจะต้องมีอีกตำแหน่ง คือ CTO (Chief Robotic Officer) ก็เป็นไปได้ "

เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
 Line : @FACTORIPRO

 

Visitors: 7,872