วิธีการชุบเคลือบผิวโลหะมีอะไรบ้าง?
Tags: การชุบเคลือบผิวโลหะ
วิธีการชุบเคลือบผิวโลหะมีอะไรบ้าง?
วิธีการชุบเคลือบผิวโลหะมีอะไรบ้าง?
1. สี (Paint)
2. วาร์นิช (Varnish)
3. การชุบโลหะ (Hot-Dip Galvanizing)
4. การชุบโลหะด้วยไฟฟ้า (Electroplating)
5. การชุบผิวอลูมิเนียม (Aluminium Anodizing)
6. การชุบซิงค์เฟล็ค (Zinc Flake Coating)
7. การชุบเคลือบผิวแข็ง (PVD Coating)
8. การชุบนิกเกิลแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Kanigen®)
9. การเคลือบไฮโดรฟิลิก (Hydrophilic)
การชุบเคลือบผิวโลหะเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเพิ่มความทนทานและปกป้องโลหะจากการกัดกร่อนและการสึกหรอ เทคนิคการชุบเคลือบมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทของโลหะและการใช้งานที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความแข็งแรง ความต้านทานต่อสภาพแวดล้อม หรือการปรับปรุงคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพ บทความนี้ FactoriPro จะนำเสนอวิธีการชุบเคลือบผิวโลหะที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม พร้อมทั้งประโยชน์และความเหมาะสมของแต่ละวิธี
1. สี (Paint)
- สี (Paint) เป็นวิธีการชุบเคลือบผิวโลหะแบบพื้นฐาน โดยมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงแค่พ่นหรือทาสีลงไปบนโลหะต่าง ๆ วิธีนี้จะช่วยลดการผุกร่อนและการเกิดสนิมจากปัจจัยแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ฝน ความชื้น ฝุ่นละออง แสงแดด ลดการเกิดรอยขีดข่วน ทั้งยังช่วยเพิ่มความมีระดับให้ชิ้นงานและเป็นวิธีชุบโลหะราคาถูกอีกด้วย
2. วาร์นิช (Varnish)
- การเคลือบผิวโลหะแบบวาร์นิช (Varnish) สามารถเลือกได้ทั้งแบบเงาและแบบด้าน โดยการเคลือบแบบเงา (Glossy Coating) นั้น ตัววัสดุจะเกิดความเงางาม สะท้อนแสง หรูหรา ส่วนการเคลือบแบบด้าน (Matt Coating) จะได้ความเงาด้าน ดูเท่มีสไตล์ การเคลือบโลหะแบบวาร์นิชนิยมเคลือบลงผิวกระดาษหรือกล่องเพื่อป้องกันการสัมผัสกับน้ำและความชื้น ไม่สร้างความเสียหาย เหนือสิ่งอื่นใดยังมีส่วนสำคัญในการเพิ่มมูลค่าต่อชิ้นงานให้สูงขึ้นด้วย
3. การชุบโลหะ (Hot-Dip Galvanizing)
- การชุบโลหะ (Hot-Dip Galvanizing) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน” นิยมใช้กับการเคลือบเหล็ก โดยหลักการคือเหล็กจะถูกจุ่มลงในบ่อสังกะสีที่กำลังหลอมเหลวด้วยอุณหภูมิระหว่าง 435 – 455 องศาเซลเซียส จนเกิดชั้นสังกะสีเคลือบบนผิวโลหะเอาไว้ การเคลือบวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน ลดการเกิดรอยขีดข่วนและการถูกสารเคมีกัดกร่อนได้ ซึ่งถือเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก
4. การชุบโลหะด้วยไฟฟ้า (Electroplating)
- การชุบโลหะด้วยไฟฟ้า (Electroplating) เป็นวิธีชุบโลหะที่นำหลักทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ โดยจะให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไปในตัวโลหะเพื่อละลายเกลือ (Metallic Salts) จากนั้นอิออนบวกจะเดินทางมารับประจุไฟฟ้าลบบนผิววัสดุซึ่งมีหน้าที่เป็นขั้วลบ (Cathode) อยู่แล้ว สิ่งที่ตามมาคือการเกิดชั้นผิวบาง ๆ เคลือบเอาไว้บนผิวโลหะภายนอก ช่วยป้องกันความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การชุบผิวอลูมิเนียม (Aluminium Anodizing)
- หลักการของเทคนิคการชุบผิวอลูมิเนียม (Aluminium Anodizing) คือการนำวัสดุมาขัดด้วยกระดาษทราย จากนั้นจึงนำไปชุบกับเคมีอโนไดซ์ตามสูตรของแต่ละแห่งเพื่อให้เกิดออกไซด์บนผิวโลหะจากการที่สารประกอบแยกตัวออกเป็นอะตอมภายในสารละลายนั้น ๆ ซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือผิวโลหะจะมีความหนากว่าปกติเล็กน้อย ช่วยลดการกัดกร่อนจากสารเคมี และการสัมผัสปัจจัยแวดล้อมภายนอก
6. การชุบซิงค์เฟล็ค (Zinc Flake Coating)
- การชุบซิงค์เฟล็ค (Zinc Flake Coating) เรียกอีกอย่างหนึ่งคือการเคลือบเกล็ดสังกะสี โดยมีหลากหลายแบรนด์ เช่น DELTA-MKS® (เดลต้า-เอ็มเคเอส), GEOMET, MAGNI เป็นต้น ส่วนผสมหลักนอกจากสังกะสี (ซิงค์) แล้ว ยังมีอะลูมิเนียมด้วย โดยบางครั้งก็เรียกว่าการชุบแบบซิงค์อะลูมิเนียมเฟล็ค การชุบด้วยเทคนิคนี้คือกระบวนการชุบเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากปัจจัยจากสภาพแวดล้อมการใช้งาน และจากสารเคมี รวมถึงมีคุณสมบัติการป้องกันสนิมแบบแคโทดิกและป้องกันการกัดกร่อนแบบกัลวานิคได้อีกด้วย ทั้งยังไม่มีส่วนประกอบของโครเมียม (Chrome-free) จึงดีต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งาน สามารถใช้ได้กับวัสดุทุกประเภท ซึ่งที่ไทยปาร์คเกอร์ไรซิ่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเคลือบผิวหลากหลายประเภท มีให้บริการรับชุบ DELTA-MKS® ทั้งแบบ Base coat และ Top coat ด้วยมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพและให้ผลลัพธ์ตามความต้องการของลูกค้า
7. การชุบเคลือบผิวแข็ง (PVD Coating)
- วิธีการชุบเคลือบผิวแข็ง (PVD Coating) จะมีการใช้เทคโนโลยี Physical Vapor Deposition (PVD) หรือการเคลือบทางกายภาพขณะที่โลหะอยู่ในสภาวะสุญญากาศ และเกิดเป็นฟิล์มบาง ๆ ระดับไมครอนเคลือบอยู่บนผิว พร้อมทั้งมีความแข็งแรงทนทานและลดการสึกกร่อนจากสิ่งต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยม อีกทั้งขนาดชิ้นงานยังไม่เปลี่ยนแปลง
8. การชุบนิกเกิลแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Kanigen®)
- การชุบนิกเกิลแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Electroless Nickel Plating) หรือคานิเจน (Kanigen®) คือลักษณะของงานเคลือบผิวด้วยการนำโลหะไปชุบนิกเกิลแบบไม่ใช้กระแสไฟฟ้า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ผิวเคลือบมีความแข็ง ทนต่อการใช้งานที่อุณหภูมิสูง จึงโดดเด่นในการช่วยป้องกันการกัดกร่อน การสึกหรอ ทั้งยังใช้ได้กับโลหะหลายประเภททั้งเหล็ก เหล็กกล้าไร้สนิม และอลูมิเนียม ผิวชุบคานิเจนจะมีระดับความหนาและความสม่ำเสมอมากกว่าการเคลือบโลหะทั่วไป จึงช่วยให้สามารถควบคุมขนาดของชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. การเคลือบไฮโดรฟิลิก (Hydrophilic)
- วิธีสุดท้ายคือการเคลือบไฮโดรฟิลิก (Hydrophilic) จะเป็นการเคลือบผิวคอยล์ทำความเย็นของระบบปรับอากาศรถยนต์และระบบปรับอากาศภายในบ้าน เพื่อยืดระยะเวลาในการใช้งานและช่วยให้ระดับความเย็นคงที่ ป้องกันการเกิดสนิมจากความชื้น ลดกลิ่นเหม็นอับจากแบคทีเรียด้วยการเพิ่มสารบางชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ จึงมั่นใจว่าทุกการสูดอากาศในรถยนต์หรือห้องแอร์จะสะอาด ปลอดภัย
>>> จบกันไปแล้วสำหรับเนื้อหาที่เรานำเสนอวันนี้ และครั้งต่อไปเราจะนำเสนอเรื่องใด สามารถติดตามพวกเราได้หรือเยี่ยมชมและรับข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่
Facebook : FACTORIPRO
Youtube : FACTORIPRO
Website : www.FactoriPro.com
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO