ประเภทของปั๊มไฮดรอลิค(Hydraulic Pump)
ประเภทของปั๊มไฮดรอลิค (Hydraulic Pump)
ประเภทของปั๊มไฮดรอลิค (Hydraulic Pump)
1. ปั๊มเกียร์ (Gear Pump)
2. ปั๊มลูกสูบ (Piston Pump)
3. ปั๊มวี (Vane Pump)
ปั๊มไฮดรอลิคมีหลายประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่แตกต่างกัน โดยแต่ละประเภทมีลักษณะการทำงานและการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามประเภทหลักที่นิยมใช้กันคือ ปั๊มเกียร์ (Gear Pump) ปั๊มลูกสูบ (Piston Pump) ปั๊มวี (Vane Pump)
1. ปั๊มเกียร์ (Gear Pump)
ลักษณะการทำงาน ปั๊มเกียร์ใช้การหมุนของเกียร์เพื่อดูดน้ำมันไฮดรอลิคจากถังเก็บและส่งไปยังระบบ โดยมีการสร้างช่องว่างระหว่างฟันของเกียร์เมื่อหมุน ซึ่งทำให้สามารถดูดน้ำมันเข้าไปได้
ประเภท
- ปั๊มเกียร์แบบภายใน (Internal Gear Pump): มีเกียร์หนึ่งอยู่ภายในอีกเกียร์หนึ่ง น้ำมันจะถูกดูดเข้ามาและอัดออกไป
- ปั๊มเกียร์แบบภายนอก (External Gear Pump): ใช้เกียร์สองตัวที่หมุนอยู่ข้างนอกกัน น้ำมันจะถูกดึงจากถังและส่งออกไป
ข้อดี
- มีความทนทานและเรียบง่ายในการทำงาน
- เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการปริมาณน้ำมันสูง
- สามารถผลิตแรงดันได้ค่อนข้างสูง
การใช้งาน
- ใช้ในระบบไฮดรอลิคที่ต้องการปริมาณน้ำมันสูง เช่น รถบรรทุกและเครื่องจักรในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
2. ปั๊มลูกสูบ (Piston Pump)
ลักษณะการทำงาน ปั๊มลูกสูบทำงานโดยการใช้ลูกสูบที่เคลื่อนที่ไปมาในกระบอกสูบ เพื่อดูดและอัดน้ำมันไฮดรอลิค ระบบนี้สามารถสร้างแรงดันได้สูงขึ้น
ประเภท
- ปั๊มลูกสูบแบบแรงดันสูง (High-Pressure Piston Pump): ใช้ในงานที่ต้องการแรงดันสูง เช่น เครื่องจักรกลหนัก
- ปั๊มลูกสูบแบบบรรจุแรงดันต่ำ (Low-Pressure Piston Pump): ใช้สำหรับงานที่ต้องการแรงดันต่ำและปริมาณมาก
ข้อดี
- สามารถสร้างแรงดันสูงได้
- มีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน
- สามารถควบคุมการไหลและแรงดันได้อย่างแม่นยำ
การใช้งาน
- ใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงดันสูง เช่น ระบบเครื่องจักรในโรงงานผลิต หรือในเครื่องมือที่ต้องการการควบคุมที่แม่นยำ
3. ปั๊มวี (Vane Pump)
ลักษณะการทำงาน ปั๊มวีใช้แผ่นวีนที่อยู่ภายในตัวปั๊มหมุนเพื่อดูดและอัดน้ำมัน น้ำมันจะถูกสูบเข้าไปในช่องว่างระหว่างแผ่นวีนและผนังของปั๊ม
ข้อดี
- ทำงานเงียบและไม่ส่งเสียงดัง
- มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
- ง่ายต่อการติดตั้งและบำรุงรักษา
การใช้งาน
- ใช้ในงานทั่วไปที่ต้องการปริมาณน้ำมันที่มีแรงดันปานกลาง เช่น ระบบไฮดรอลิคในรถยนต์และเครื่องมือเครื่องจักรที่ไม่ต้องการแรงดันสูงมาก
แต่ละประเภทของปั๊มไฮดรอลิคมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ปั๊มที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบไฮดรอลิคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงทน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม
>>> จบกันไปแล้วสำหรับเนื้อหาที่เรานำเสนอวันนี้ และครั้งต่อไปเราจะนำเสนอเรื่องใด สามารถติดตามพวกเราได้หรือเยี่ยมชมและรับข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่
Facebook : FACTORIPRO
Youtube : FACTORIPRO
Website : www.FactoriPro.com
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO