ศักยภาพประเทศไทย ขึ้นแท่นฮับ “รถ EV”

นายกฯ เชื่อมั่น ศักยภาพประเทศไทย ขึ้นแท่นฮับ “รถ EV”

     ค่ายยักษ์ หวังไทยเป็นฐานผลิต ส่งออกไปทั่วโลก
มีรายงานว่า ค่ายรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV หลายราย กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน หรือวางแผนเตรียมการผลิตในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะเริ่มผลิตภายในปี 2567 นอกจากนี้ BOI หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ยังเผยว่า ปัจจุบันได้อนุญาตส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวให้กับ 17 บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เงินลงทุนรวม 11,700 ล้านบาท 14 บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ความจุสูง (High Density Battery) เงินลงทุน 12,000 ล้านบาท และ 18 บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า เงินลงทุนรวม 5,970 ล้านบาท
นอกจากนี้ กิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ที่ถือเป็นอีก 1 ในระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้า ก็ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI อีกกว่า 11 บริษัท เงินลงทุนรวม 5,100 ล้านบาท
 
     นายกฯ มั่นใจ ไทยเป็นฐานการผลิตรถ EV ของภูมิภาค
ล่าสุด วันนี้ (9 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ มั่นใจไทยอยู่ในความสนใจของต่างประเทศ เชื่อว่ามีโอกาสเป็นที่ตั้งของโรงงาน เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าทั้งวงจรของบริษัทยักษ์ใหญ่ เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และส่งออกไปทั่วโลก
 
     โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า BOI ยังได้ส่งเสริมการลงทุนให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) 16 ราย เงินลงทุนรวมกว่า 39,500 ล้านบาท ทั้งจากผู้ผลิตรถยนต์รายเดิมจากญี่ปุ่น ที่เริ่มเปลี่ยนผ่านไปสู่รถ EV ผู้ผลิตรถยนต์จากยุโรป จีน รวมถึงบริษัทรถยนต์อื่นๆ
ทั้งนี้ ไทยพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่ง BOI ได้เร่งเดินหน้าดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนสำคัญๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ ให้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของโลก
 
     ซึ่งนอกจากจีนที่มีผู้ผลิตรถยนต์หลายรายพร้อมเข้ามาลงทุนแล้ว รัฐบาลและ BOI ยังมุ่งดึงการลงทุนจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลก ทั้งจากสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยนายกฯ ได้นำทีมประเทศไทยพบบริษัทรถยนต์ชั้นนำจากต่างประเทศ เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียน มีทั้ง supply chain และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและครบวงจร รวมทั้งมีนโยบายส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาป ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่เอื้อต่อการลงทุนของต่างประเทศ
     
     “นายกรัฐมนตรีมั่นใจ ไทยมีศักยภาพและความพร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าทั้งวงจร พร้อมเปิดรับและส่งเสริมการลงทุนของต่างประเทศในไทย เป็นไปตามวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นให้ไทยเป็นศูนย์กลาง และผู้นำในภูมิภาค ควบคู่ไปกับนโยบายด้านพลังงานสะอาด เพื่อรักษาความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของภาคเอกชนระดับโลก” นายชัย กล่าว
 
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
 Line : @FACTORIPRO
 
Visitors: 7,872