วิธีการใช้ปั๊มลม

 เลือกใช้งานปั๊มลมที่เหมาะสม

          เครื่องปั๊มลมมีอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็มีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรม ดังนั้น แต่ละโรงงาน ควรจะเลือกให้เหมาะสมทั้งประเภทการใช้งาน ขนาด และชนิดของปั๊มลม เพื่อช่วยประหยัดพลังงานที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละประเภทและการทำงานของปั๊มลมแต่ละชนิดจะมีจุดเด่น ดังนี้
-  ปั๊มลมประเภทลูกสูบ (Reciprocating Air Compressor) : ตอบโจทย์ได้หลายด้าน สร้างแรงดันลมได้ตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง นิยมใช้ตามอู่ซ่อมรถ ร้านยางรถยนต์ เป็นต้น
-  ปั๊มลมประเภทไดอะเฟรม (Diaphragm Air Compressor) : มีหลักการใช้งานคล้ายคลึงกับแบบลูกสูบ แต่จะให้ความเงียบและเสียงรบกวนที่น้อยกว่า อีกทั้งลมที่ได้ ยังเป็นแบบปราศจากน้ำมัน จึงเหมาะกับการใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเคมีมากกว่า
-  ปั๊มลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor) : สามารถผลิตลมที่มีคุณภาพสูงได้ ทั้งยังให้ปริมาณลมที่สม่ำเสมอ นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป
-  ปั๊มลมประเภทใบพัดเลื่อน (Sliding Vane Rotary Air Compressor) : พร้อมให้ระบบอัดอากาศที่สม่ำเสมอ มีแรงดันคงที่ จึงเหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงลมที่สม่ำเสมอและคงที่
-  ปั๊มลมประเภทใบพัดหมุน (Roots Air Compressor) : ปั๊มลมประเภทนี้จะดูดอากาศเข้าไปโดยไม่เปลี่ยนปริมาตร แต่จะบีบอัดตัวขณะเก็บเข้าไปในถังลม ทำให้ต้องอาศัยการระบายความร้อนและอุณหภูมิที่ดี ทั้งยังมีการหล่อลื่นขณะทำงาน แต่ก็แลกมาด้วยต้นทุนการผลิตที่สูง
-  ปั๊มลมแบบกังหัน (Radial And Axial Flow Air Compressor) : ให้อัตราการจ่ายลมได้สูง เนื่องจากมีใบพัดแบบกังหันลมถึงสองด้าน โดยสามารถจ่ายแรงลมได้ตั้งแต่ 170-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที
 
 
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
 Line : @FACTORIPRO
 
Visitors: 17,708